การดูแลเสื้อผ้าเด็ก
การซักผ้า
เลือกใช้น้ำยาซักผ้าเด็กที่ปราศจากสารเคมีรุนแรงและสารก่อภูมิแพ้
เสื้อผ้าใหม่ควรซักก่อนให้เด็กสวมใส่เพื่อล้างสารเคมีหรือสิ่งสกปรกที่อาจตกค้างจากการผลิต และหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าปรับผ้านุ่ม ที่มีสารเคมี เพราะอาจทำให้ผิวเด็กระคายเคือง
ควรแยกซักเสื้อผ้าเด็กกับเสื้อผ้าผู้ใหญ่เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือสารเคมีที่อาจตกค้างจากเสื้อผ้าผู้ใหญ่
ล้างน้ำยาซักผ้าออกให้หมด เพื่อลดสารตกค้างที่มีอยู่
หลังซักตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคและทำให้เสื้อผ้าหอม
การพับเก็บเสื้อผ้าเด็กในที่แห้งและสะอาด เพื่อป้องกันเชื้อราและแมลง
การเก็บรักษาเสื้อผ้า
เสื้อผ้าเด็กควรเก็บไว้ในที่แห้งและสะอาดเพื่อป้องกันการเชื้อราและแมลง
จัดเก็บเสื้อผ้าให้เป็นระเบียบ เช่น เสื้อ กางเกง และของใช้ประเภทอื่นๆ เพื่อให้สะดวกในการหยิบมาใช้
หากต้องการเก็บเสื้อผ้าเป็นเวลานาน ควรใช้ถุงกันฝุ่นเพื่อป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรก
การตรวจสอบและซ่อมแซม
ตรวจสอบเสื้อผ้าเด็กอย่างสม่ำเสมอเพื่อหาจุดที่อาจเป็นอันตราย เช่น กระดุมที่หลุดหรือตะเข็บที่ขาด
หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าให้เด็กหากมีจุดชำรุดเสีย ควรซ่อมแซมให้เรียบร้อยก่อน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับเด็ก
การเลือกเสื้อผ้าในโอกาสต่างๆ
เสื้อผ้าประจำวัน ควรเลือกเสื้อผ้าที่ใส่สบายและง่ายต่อการเคลื่อนไหว
เสื้อผ้าออกนอกบ้าน ควรเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ เช่น เสื้อกันหนาวในฤดูหนาว หรือเสื้อผ้าที่ระบายอากาศดีในฤดูร้อน
ควรเลือกชุดนอนที่นุ่มสบายและหลีกเลี่ยงสิ่งตกแต่ง ไม่มีปุ่มหรือซิปในตำแหน่งที่อาจกดทับผิวเด็กขณะนอน อาจทำให้ไม่สบายตัวขณะนอนหลับ
การเลือกรองเท้าและอุปกรณ์เสริม
ควรเลือกรองเท้าที่มีขนาดพอดีและสวมใส่สบาย เพื่อช่วยในการพัฒนาการเดินของเด็ก
อากาศหนาวควรสวมใส่หมวกและถุงมือหรือเมื่อออกนอกบ้าน ควรมีผ้าพันคอและผ้าคลุมเพื่อป้องกันลมหนาวให้เด็กอบอุ่น
การเลือกเสื้อผ้าเด็กตามสภาพอากาศ
ฤดูร้อน
เลือกเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายบางเบาเพื่อระบายความร้อนและดูดซับเหงื่อได้ดี
สีอ่อนช่วยสะท้อนแสงแดดและลดความร้อน
หากต้องออกไปกลางแจ้ง ควรมีเสื้อคลุมหรือหมวกเพื่อป้องกันแสงแดด
ฤดูหนาว
ใส่เสื้อผ้าหลายชั้นเพื่อให้สามารถปรับอุณหภูมิได้ง่าย
ผ้าขนสัตว์หรือผ้าโพลีเอสเตอร์ เพื่อช่วยเก็บความอบอุ่น
เสื้อกันหนาว ควรมีเสื้อกันหนาวที่อบอุ่นและกันลม
ถุงมือและหมวก ปกป้องมือและศีรษะจากความหนาว